หลายคนอาจเคยได้ข่าวเกี่ยวกับ All-New Toyota Alphard กันมาบ้างแล้ว ว่าแต่รู้หรือไม่ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างในอัลพาร์ด 2022 นี้บ้าง วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังเพื่อเรียกน้ำย่อยให้กับเหล่านักขับกันครับ
ความน่าสนใจเกี่ยวกับอัลพาร์ด 2022
หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อ All-New Toyota Alphard 2022 โดยรถรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่ 4 ของอัลพาร์ด รหัส AH40 โดยรุ่นนี้จะไม่มีการวางขาย Vellfire ควบคู่กันอีกแล้ว ซึ่งอัลพาร์ดรุ่นนี้ยังคงมุ่งเน้นความเป็นรถหรูเหมือนเดิมตามสไตล์รถระดับผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการเช่นเดิม ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นตามอ่านกันเลยครับ
1. รูปลักษณ์ภายนอก
ได้มีการปรับเปลี่ยนบางส่วนออก เริ่มจากรูปลักษณ์ที่มีความกว้าง-ยาวของตัวรถเพิ่มจากเดิม ปัจจุบันอัลพาร์ดรุ่นนี้ยาวอยู่ที่ 4,950 มม. กว้างอยู่ที่ 1,880 มม. ส่วนความสูงลดลง 10-15 มม. จะอยู่ที่ 1,940 มม. น้ำหนักรถ 2,180 กก. ฐานล้อ 3,050 มม. มีการออกแบบกันชนใหม่ ไฟหน้าใหม่ แต่กระจังยังคงคอนเซปต์เดิมคือเน้นความดุดันเหมือนเดิม มีเส้นแถบโครเมียมแนวนอนหลายชั้นตลอดทั้งคัน มีไฟตัดหมอกที่ด้านล่างชายกันชน ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ LED ช่องเสา A ขยายกระจกให้ยาวขึ้น ด้านหลังถูกออกแบบให้ซ่อนเสา C และ D สปอยเลอร์หลังกลมกลืนไปกับประตูท้าย และมีไฟเบรกดวงที่ 3 เหมือนเดิม จากเดิมใช้แพลทฟอร์ม MC ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น TNGA ให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง แต่ตัวโครงถังแข็งแรงขึ้น
2. ขุมพลัง
ยกเลิกเครื่องเบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร แล้วแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ T24A-FTS ที่นำมาจาก Lexus nx 350 ให้กำลังสูงสุด 275 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร นอกจากนี้ยังปรับปรุงเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ A25A-FXS พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ Nickel-Metal Hybrid (NiMH) โดยให้พละกำลังรวม 219-222 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร
3. ภายในห้องโดยสาร
เนื่องจากระยะฐานล้อกว้างขึ้นทำให้มีพื้นที่ในห้องโดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งถูกสร้างด้วยแพลทฟอร์มโมดูลาร์ TNGA-K ใหม่ ช่วยให้ยึดเกาะถนนดีขึ้นด้วย และใช้ระบบ Infotainment แบบใหม่ที่ใช้ระบบ Cloud เพื่อรองรับการอัปเดตแบบ OTA (over-the-air) ผ่านหน้าจอ Infotainment ขนาด 14 นิ้ว เพื่อรองรับการพัฒนาระบบที่สามารถเช็กหรือปรับเปลี่ยน Setting รถผ่านสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยในการระบุตำแหน่งที่จอดรถ
4. ระบบความปลอดภัย
คาดว่าจะใช้ระบบ Toyota Safety Sense 2.5 & 2.5+ โดยเพิ่มระบบอื่นๆ เข้ามา เช่น ระบบความปลอดภัยก่อนการชนและเบรกอัตโนมัติ (Pre-Collision System) ป้องกันการชนคนและคนขับจักรยานทั้งเวลากลางวัน-กลางคืน โดยจะทำงานในย่าน 30-180 กม./ชม. หากมีสิ่งกีดขวางตัดหน้ารถ จะมีระบบ Emergency Steering Assist สำหรับหักหลบพวงมาลัยอัตโนมัติ ทำงานในย่าน 40-80 กม./ชม. ซึ่งช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวางหรือยานพาหนะได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีระบบ Curve Speed Management ทำงานที่ความเร็ว 50 กม./ชม. ขึ้นไป โดยทำงานร่วมกับระบบ All-speed Dynamic Radar Cruise Control ทำงานที่ความเร็ว 0-180 กม./ชม.
จากข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดมาจากการรายงานของ Bestcarweb สำนักข่าวยานยนต์ชื่อดังของญี่ปุ่นเท่านั้น ทั้งนี้อาจต้องรอรถรุ่นนี้ให้เข้าไทยจริงๆ อีกทีว่าจะมีอะไรน่าสนใจเพิ่มเติมมั้ย? สำหรับใครที่อ่านจบแล้วสนใจเป็นเจ้าของรถนำเข้าอัลพาร์ดสักคัน สามารถติดต่อสอบถามกับทางเรา Teddy Auto Sale ได้ตลอด 24 ชม. หรือถ้าท่านสนใจรถนำเข้าแบรนด์อื่นทางเราก็มีพร้อมให้ท่านเลือกมากมาย รวมถึงมีศูนย์บริการถึง 4 สาขา เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดีที่สุดจากเรา
Alphard แต่ละรุ่นแตกต่างกันยังไง?
Toyota Alphard Hybrid กับ 6 ข้อดีที่คุณควรรู้
ทำไมต้องซื้อรถนำเข้ากับ Teddy Auto Sale
Teddy Auto Sale ศูนย์นำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปคุณภาพสูงหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น MPV , Mini MPV, SUV, Sedan, Sport มาพร้อมออฟชั่นครบครันจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Toyota , Honda , Porsche , Mini , Bentley จำหน่ายในราคาสุดคุ้ม ไม่เรียกเก็บค่าแรกเข้า มีบริการหลังการขายโดยช่างผู้ชำนาญการที่ได้รับการอบรมจากประเทศญี่ปุ่น มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับและทันสมัย มีเครือข่ายการบริการช่วยเหลือฉุกเฉินครอบคลุมทั่วประเทศ บริการรับรถถึงที่ รวมถึงมีสาขาให้ท่านเลือกใช้บริการถึง 4 สาขา ได้แก่
สำหรับรถ Alphard & Vellfire เทดดี้ที่เดียวในไทยที่กล้ามอบ Warranty พร้อมใบ Certificate รับรองจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมระบบ Hybrid สูงสุด 5 ปี / 100,000 km. กรณีมีปัญหา เราพร้อมเปลี่ยนอะไหล่ให้ทันทีแบบไม่มีเงื่อนไข เทดดี้ ออโต้เซลส์พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยใจ เอาใส่ใจทุกขั้นตอนราวกับคนในครอบครัว เพราะเราเชื่อว่าการมีรถดีๆ สักคันจะช่วยสร้างความสุขให้ทุกท่านได้ตลอดการเดินทาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่