เคล็ดไม่ลับในการขับรถทางไกล ไม่ให้เหนื่อยตลอดการเดินทาง

การออกทริปต่างจังหวัดเป็นสิ่งที่หลายๆ ครอบครัวมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไป แต่การขับรถทางไกลแบบนี้จะต้องอาศัยประสบการณ์และการเตรียมความพร้อมในการขับขี่เพื่อให้ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยทั้งตัวคนขับและคนที่โดยสารด้วย วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ มาฝากครับ

ขับรถทางไกลอย่างไรให้ปลอดภัย และไม่เหนื่อยตลอดการเดินทาง

1. เตรียมความพร้อมของเครื่องยนต์

ทุกครั้งที่เดินทางไกลจะต้องตรวจเช็กสภาพรถเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็น

• เช็กลมยาง ดอกยาง รอยฉีกขาด
• เช็กรอยรั่วซึม น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก และน้ำมันเกียร์
• เช็กที่ปัดน้ำฝน
• เช็กไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟสูง ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน และไฟในห้องผู้โดยสาร
• เช็กฟิวส์สำรอง
• เช็กระบบเกียร์
• เช็กระบบเบรก
• เช็กแผงควบคุมอุปกรณ์ภายในรถ
• ตั้งศูนย์พวงมาลัยให้ตรง
• เช็กระบบน้ำหล่อเย็น หม้อน้ำ สายไฟ สายพาน น้ำกลั่น แบตเตอรี่

2. เตรียมความพร้อมของคน

หากคุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ก็ไม่ควรขับรถเด็ดขาด!! เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ช้าลง หรือถ้าหากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าจากกิจวัตรประจำวัน หรือง่วงนอนก็ตาม ไม่ควรขับรถด้วยเช่นกัน เพราะอาการไม่พร้อมของร่างกายส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้นด้วย ทางที่ดีควรเตรียมความพร้อมก่อนขับรถด้วยการพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชม. แต่หากคุณขับรถเป็นอาชีพก็ไม่ควรขับรถเกินวันละ 8-10 ชม. หากรู้สึกง่วงนอนจริงๆ ควรหาจุดจอดพักและงีบหลับอย่างน้อย 15-20 นาที การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในร่างกาย รวมถึงหาของกินรองท้องเพื่อให้ร่างกายมีพลังงาน

3. ศึกษาเส้นทางทุกครั้งก่อนออกเดินทาง

ควรศึกษาเส้นทางไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศขณะนั้นและสภาพพื้นถนน โดยเฉพาะพื้นถนนที่เอื้อต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ทางลาดชัน, ทางเปลี่ยว ฯลฯ เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นอันตรายและช่วยให้วางแผนแวะจอดเพื่อพักผ่อน หรือหาของกินอร่อยๆ ระหว่างทาง ได้สะดวกอีกด้วย ทั้งนี้อาจให้คนในครอบครัวช่วยดูแผนที่และบอกทางให้เราขับเพื่อป้องกันการเฉี่ยวชนที่เกิดจากการก้มหน้ามองดูแผนที่ของคนขับนั่นเอง นอกจากนี้อย่าลืมวางแผนขากลับด้วยว่าควรเลือกใช้เส้นทางไหนดี คาดคะเนหรือดูแนวโน้มว่าควรออกเดินทางกลับตั้งแต่กี่โมงเพื่อเลี่ยงรถติด รวมทั้งช่วยไม่เหนื่อยทั้งคนขับและคนโดยสารอีกด้วย

4. เติมน้ำมันให้พอต่อการใช้งาน

พอเราศึกษาเส้นทางแล้วจะพบว่าบางแห่งอาจไม่มีปั๊มน้ำมันตั้งอยู่ระหว่างทาง ดังนั้นการกะระยะทางและเติมน้ำมันให้เพียงพอต่อการเดินทางจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องน้ำมันหมดกลางทาง

5. ขับขี่ตามกฎจราจร

เนื่องจากเส้นทางออกสู่ต่างจังหวัดนั้นส่วนใหญ่เป็นถนนเส้นตรงยาว ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หากเร็วกว่านี้อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่ายเนื่องจากรถจะมีระยะเบรกที่สั้น นอกจากนี้ยังต้องระวังในเรื่องของสิ่งกีดขวาง, คน หรือสัตว์ตัดหน้ารถ รวมถึงรถที่ขับสวนเลนกันมาด้วย ดังนั้นไม่ควรใช้ความเร็วมากเกินไป แต่หากคุณขับรถในเขตชุมชนก็ควรใช้ความเร็วเพียง 30 กม./ชม. เท่านั้น นอกจากนี้ระมัดระวังการใช้ระบบไฟต่างๆ ให้เหมาะกับสถานการณ์ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่ตอนกลางคืน ควรเลือกใช้ไฟหน้า, ไฟเลี้ยว และไฟสูงให้เหมาะกับสถานการณ์

6. จอดพักบ้าง หาคนช่วยขับสลับกัน

เมื่อขับรถเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยล้าทั้งคนขับเองและคนโดยสารด้วยเช่นกัน ทางที่ดีไม่ควรขับรถเกิน 2 ชม. หรือ 110 กม. นอกจากจะพักคนแล้วยังได้พักเครื่องยนต์ไม่ให้ฮีทเกินไป

7. อย่าฝืนขับต่อหากรถมีปัญหา

หากขับอยู่ดีๆ แล้วรถเสียขึ้นมา ไม่ควรฝืนขับต่อเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ ดังนั้นควรติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อจัดการปัญหารถเสียให้ทันที

และที่สำคัญควรตรวจเช็กรถเป็นประจำเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับรถทางไกลมากขึ้น แต่ถ้าหากคุณซื้อรถจาก Teddy Auto Sale แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันจากอุบัติเหตุ หรือปัญหารถอื่นๆ ก็ตาม สามารถติดต่อขอรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงจากเราได้ทันที หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม กดอ่านได้ที่นี่ครับเลย

บทความที่น่าสนใจ

พวงมาลัยรถมีผลต่อการขับขี่หรือไม่

ข้อดีจากการเช็กระยะรถตามกำหนด

บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง Teddy Auto Sale