ควรรู้ไว้!! เทคนิคง่ายๆ หากต้องขับรถตอนกลางคืน

หลายคนอาจมีความจำเป็นในการขับรถตอนกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อันตรายมากเนื่องจากทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดีเท่าตอนกลางวัน ดังนั้นเรามีวิธีเตรียมความพร้อมให้การขับขี่ตอนกลางคืนของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย

ขับรถตอนกลางคืน

เทคนิคขับรถตอนกลางคืนอย่างไรให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

1. เตรียมความพร้อมของเครื่องยนต์

ทุกครั้งที่เดินทางโดยเฉพาะตอนกลางคืนจะต้องตรวจเช็กสภาพรถเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟสูง ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน และไฟในห้องผู้โดยสาร รวมถึงพกไฟฉายติดตัวด้วยตลอดเวลา นอกจากนี้ควรทำความสะอาดไฟเหล่านี้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ไฟส่องสว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของกระจกนั้น ควรทำความสะอาดกระจกข้างหน้าด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์หรือหนังสือพิมพ์ผสมน้ำยาเช็ดกระจกรถ และเมื่อต้องขับตอนกลางคืนก็ควรปรับกระจกมองข้างรถยนต์ลงเล็กน้อย เพื่อให้มองเห็นรถคันหลังโดยที่ไฟจากรถคันหลังไม่ส่องเข้าตาเรา หรืออาจปรับกระจกมองหลังไปที่โหมดกลางคืนเพื่อป้องกันแสงจ้าได้ด้วยเช่นกัน

2. เตรียมความพร้อมของคน

หากคุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาไม่ว่าจะน้อยหรือมากก็ตามก็ไม่ควรขับรถเด็ดขาด เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กล่อมประสาท ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ช้าลง โดยเฉพาะการตัดสินใจในการขับขี่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้, นอกจากนี้การสูบบุหรี่ก็มีผลเช่นกัน ในบุหรี่มีสารนิโคตินและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งส่งผลต่อดวงตาโดยตรง เพราะไปยับยั้งสารเคมีในร่างกายที่ช่วยในการมองเห็นเวลากลางคืนให้มีประสิทธิภาพน้อยลง นอกจากนี้หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้าเพราะกิจวัตรประจำวัน หรือง่วงนอนก็ตาม ไม่ควรขับรถด้วยเช่นกัน เพราะอาการเหล่านี้ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้นด้วย

ทางที่ดีคุณควรเตรียมความพร้อมก่อนขับรถด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอและไม่ขับรถเกินวันละ 8-10 ชม. หากต้องขับทางไกลควรหยุดพักอย่างน้อยทุก 2 ชม. หากรู้สึกง่วงนอนจริงๆ ควรหาจุดปลอดภัยเพื่อจอดพักและงีบหลับอย่างน้อย 15 นาที นอกจากนี้การดื่มน้ำให้เพียงพอยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกาย รวมถึงหาของกินเพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีพลังงาน และที่สำคัญอย่าลืมเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางด้วยการศึกษาเส้นทางไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศขณะนั้นและสภาพพื้นถนนที่กำลังจะไปเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นอันตรายที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

ขับรถตอนกลางคืน

3. จอดพักทันทีที่ฝนตกหนัก

นอกจากฝนตกจะบดบังวิสัยทัศน์ในการขับขี่แล้ว พื้นถนนที่เปียกยังส่งผลให้รถเสียการทรงตัวง่าย เบรกยากขึ้น หากต้องเบรกกะทันหัน รถอาจไถลลื่นจนเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นควรหาที่จอดพักจนกว่าฝนจะซาลง หากต้องจอดบนไหล่ทางก็ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้รถคันอื่นเห็น

4. ล็อกรถทุกครั้งเมื่อต้องจอด

ในกรณีที่จอดพักเพื่อนอนหลับ, แวะเข้าห้องน้ำ หรือแม้แต่จอดบริเวณสี่แยกไฟแดงก็ตาม จะต้องล็อกล้อเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพเข้ามาในรถ หรือหากพบคนโบกมือขอความช่วยเหลือจากคุณหรือเกิดอุบัติเหตุตอนกลางคืน ให้ตั้งสติและอย่าเพิ่งลงจากรถ เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพมาหลอกเราก็ได้ ทางที่ดีควรโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ 191, แพทย์ฉุกเฉิน 1669 หรือหน่วยแพทย์กู้ชีพ 1554 ฯลฯ

ขับรถตอนกลางคืน

5. เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

หากขับรถตอนกลางคืนแล้วเห็นว่าทางข้างหน้าโล่งมาก หลายคนจึงใช้ความเร็วเกิน 80 กม./ชม. ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด บวกกับแสงสว่างเวลากลางคืนไม่มากพอเหมือนตอนกลางวัน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการมีสิ่งกีดขวาง, คน หรือสัตว์ตัดหน้ารถ รวมถึงรถที่ขับสวนเลนกันมาด้วย ดังนั้นไม่ควรใช้ความเร็วมากเกินไปหากอยู่ในเขตเมือง แต่หากคุณขับรถในเขตชุมชนก็ควรใช้ความเร็วเพียง 30 กม./ชม. เท่านั้น

เนื่องจากทางที่มืดอาจทำให้หลายคนที่ไม่ชำนาญการขับขี่เวลากลางคืนใช้ไฟสูงไม่ถูก โดยไฟสูงนั้นจะใช้กะพริบแจ้งเตือนรถเลนขวาเพื่อขอแซง, ใช้กะพริบเตือนรถคันหน้า, ใช้ส่องดูทางข้างหน้าที่ไกลออกไป ที่ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ไฟสูงคือห้ามเปิดทิ้งไว้ขณะขับรถ เพราะแสงอาจไปแยงตารถที่ขับสวนมานั่นเอง

6. ทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างให้พอดี

ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 40 เมตร แต่หากพบปัญหาในการขับ เช่น ยางรถเก่า พื้นถนนไม่ดี หรือมีฝนตกหนัก ให้เพิ่มระยะห่างเป็น 2 เท่า ทันที เพื่อป้องกันการเบรกกะทันหันไม่ทัน และชนกับรถคันข้างหน้า หากรถคันหลังต้องการแซงหน้าไปก็ปล่อยให้เขาไปก่อน เพราะเขาอาจมีเหตุจำเป็นมากกว่าเราก็เป็นได้

7. สังเกตทางข้างหน้าตลอดเวลา

ที่สำคัญควรมีสติทุกครั้งตลอดการขับขี่ สังเกตดูกระจกหน้าและข้างทางตลอดเวลาเพื่อป้องกันเรื่องไม่คาดฝัน ซึ่งการมองและคาดคะเนระยะทางข้างหน้าได้อย่างแม่นยำจะช่วยให้กะระยะเบรกได้ทันท่วงทีอีกด้วย

ขับรถตอนกลางคืน

และที่สำคัญควรตรวจเช็กรถเป็นประจำเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ตอนกลางคืนมากขึ้น แต่ถ้าหากคุณซื้อรถจาก Teddy Auto Sale แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันจากอุบัติเหตุ หรือปัญหารถอื่นๆ ก็ตาม สามารถติดต่อขอรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงจากเราได้ทันที หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม กดอ่านได้ที่นี่ครับเลย

บทความที่น่าสนใจ

Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยในการขับขี่จากโตโยต้า

ข้อดีจากการเช็กระยะรถตามกำหนด

บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง Teddy Auto Sale

ทำไมต้องซื้อรถนำเข้ากับ Teddy Auto Sale

Teddy Auto Sale ศูนย์นำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปคุณภาพสูงออฟชั่นครบจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Toyota, Honda, Porsche, Mini, Bentley

Teddy Auto Sale ศูนย์นำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปคุณภาพสูงหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น MPV , Mini MPV, SUV, Sedan, Sport มาพร้อมออฟชั่นครบครันจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Toyota , Honda , Porsche , Mini , Bentley จำหน่ายในราคาสุดคุ้ม ไม่เรียกเก็บค่าแรกเข้า มีบริการหลังการขายโดยช่างผู้ชำนาญการที่ได้รับการอบรมจากประเทศญี่ปุ่น มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับและทันสมัย มีเครือข่ายการบริการช่วยเหลือฉุกเฉินครอบคลุมทั่วประเทศ บริการรับรถถึงที่ รวมถึงมีสาขาให้ท่านเลือกใช้บริการถึง 4 สาขา ได้แก่

  • สาขารามอินทรา (สำนักงานใหญ่) เบอร์โทรศัพท์ 02-971-8889
  • สาขาวิภาวดี เบอร์โทรศัพท์ 02-690-7711
  • สาขาพระราม 2 เบอร์โทรศัพท์ 02-417-1414
  • สาขาบางนา เบอร์โทรศัพท์ 02-399-1111

สำหรับรถ Alphard & Vellfire เทดดี้ที่เดียวในไทยที่กล้ามอบ Warranty พร้อมใบ Certificate รับรองจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมระบบ Hybrid สูงสุด 5 ปี / 100,000 km. กรณีมีปัญหา เราพร้อมเปลี่ยนอะไหล่ให้ทันทีแบบไม่มีเงื่อนไข เทดดี้ ออโต้เซลส์พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยใจ เอาใส่ใจทุกขั้นตอนราวกับคนในครอบครัว เพราะเราเชื่อว่าการมีรถดีๆ สักคันจะช่วยสร้างความสุขให้ทุกท่านได้ตลอดการเดินทาง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

TEDDY AUTO SALE

 TEDDYAUTOSALE

 @TEDDYAUTOSALE (ฝ่ายขาย)

 @TEDDYSERVICE (ฝ่ายศูนย์บริการ)