เลือกน้ำมันเครื่องอย่างไรให้เหมาะกับรถคุณ

น้ำมันเครื่องเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้รถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากแต่เลือกผิดอาจสร้างความเสียหายต่อเครื่องยนต์ในระยะยาวได้ ดังนั้นเราจะมาแนะนำวิธีการเลือกน้ำมันเครื่องว่ามีหลักการเลือกอย่างไร เพื่อความปลอดภัยและถนอมรถที่คุณรักให้อยู่ไปอีกนานๆ

น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องสำคัญต่อรถของคุณอย่างไรบ้าง

น้ำมันเครื่องทำหน้าที่เป็นแผ่นฟิล์มเคลือบชิ้นส่วนต่างๆ ให้เครื่องยนต์ ช่วยลดแรงเสียดทานขณะเครื่องยนต์ทำงาน ส่งผลให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น อีกทั้งช่วยระบายความร้อนให้ชิ้นส่วนต่างๆ ชะล้างคราบเขม่า ผงโลหะ และอื่นๆ ไม่ให้สิ่งสกปรกอุดตันภายในเครื่องยนต์ รวมถึงรักษากำลังอัดภายในกระบอกสูบด้วย

วิธีเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะกับรถคุณ

1. ประเภทของน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่อง

นอกจากประเภทของน้ำมันเครื่องจะแบ่งตามคู่มือการใช้งานรถแล้วว่าควรใช้น้ำมันเบนซิน  (Gasoline) หรือดีเซล (Diesel) ยังแบ่งตามชนิดของน้ำมันเครื่องออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

1.1 น้ำมันเครื่องธรรมดา

หรือที่รู้จักกันในชื่อน้ำมันแร่ เป็นน้ำมันใส ไม่มีสีและกลิ่น ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่มาจากกลั่นน้ำมันดิบโดยตรง ไม่ผ่านการสังเคราะห์ใดๆ เหมาะสำหรับระยะทางประมาณ 5,000-7,000 กม. (4 เดือน) เป็นน้ำมันเครื่องที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดาน้ำมันเครื่องทั้งหมด

1.2 น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์

ผลิตจากการผสมน้ำมันพื้นฐานแบบสังเคราะห์แท้กับน้ำมันดิบ เหมาะสำหรับระยะทางประมาณ 7,000-10,000 กม. (6 เดือน) ถือเป็นประเภทที่นิยมใช้มากที่สุดเนื่องจากราคาไม่แพงมากและมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี

1.3 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์

ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์เพื่อเสริมคุณสมบัติน้ำมันเครื่องให้พิเศษกว่าน้ำมันแร่ทั่วไป มีกรรมวิธีการผลิตทุกขั้นตอนจากแล็บทดลองของแต่ละแบรนด์ เหมาะสำหรับระยะทางประมาณ 10,000-15,000 กม. (9 เดือน) อีกทั้งมีประสิทธิภาพป้องกันเครื่องยนต์ได้ดีไม่ว่าจะเป็นการทนอุณหภูมิสูง น้ำมันไม่เสื่อมง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถทุกวันและไม่ค่อยมีเวลาดูแลรักษารถ แต่ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงทำให้ราคาสูงกว่า 2 ประเภทแรก

2. ความหนืดของน้ำมันเครื่อง

motor oil

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าน้ำมันเครื่องในปัจจุบันสามารถเปลี่ยนแปลงค่าความหนืดได้ตามอุณหภูมิ หากอุณหภูมิสูงหรือต่ำก็ตาม น้ำมันเครื่องจะคงความข้นใส เหมาะกับการใช้งานทุกสภาพอากาศ ส่วนวิธีการเลือกน้ำมันเครื่องนั้นจะดูจากตัวอักษร W หรือ Winter ที่เขียนเอาไว้หน้าฉลากน้ำมันเครื่อง หมายถึงค่าความต้านทานการเป็นไข

โดยตัวเลขที่อยู่ข้างหน้า W แสดงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในภาวะ หากน้ำมันเครื่องหนืดเกินมาตรฐานอาจไปรบกวนการหล่อลื่นของเครื่องยนต์ หรือหากหนืดน้อยเกินมาตรฐานอาจปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ได้ ส่วนตัวเลขชุดหลังแสดงความเป็นเกรดของความหนืดโดยวัดจากอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส หากตัวเลขสูงขึ้นแสดงว่าน้ำมันยังคงความหนืดและหนาของฟิล์มน้ำมันในการหล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์ได้ที่อุณหภูมิสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น 10W30 น้ำมันเครื่องจะไม่เป็นไขและใช้งานได้ในอุณหภูมิ -30 °C

3. ค่ามาตรฐานของน้ำมันเครื่อง

โดยทั่วไปน้ำมันเครื่องในประเทศไทยจะใช้ค่ามาตรฐานของน้ำมันเครื่องตามเกณฑ์ของสถาบันปิโตรเรียมอเมริกา (American Petroleum Institute) โดยค่า API จะมีค่ามาตรฐานดังนี้

  • S ย่อมาจากการจุดระเบิดด้วยหัวเทียนสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน เหมาะกับเครื่องยนต์เบนซิน สามารถแบ่งเกรดจากสูงสุดเป็น SN (เป็นค่ามาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบัน), SM, SL, SJ ส่วน SH, SG, SF, SE, SD, SC, SB และ SA เป็นน้ำมันเครื่องแบบเก่าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเครื่องยนต์ จึงไม่ควรนำมาใช้
  • C ย่อมาจากการจุดระเบิดด้วยหัวเทียนสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซล สามารถแบ่งเกรดจากสูงสุดเป็น CK-4 เลข 4 หมายถึงเครื่องยนต์ 4 จังหวะ (เป็นค่ามาตรฐานที่ใช้ในปัจจุบัน), CJ, CI, CH, CG, CF, CE, CD, CC, CB และ CA-4 ซึ่งน้ำมันเครื่องบางประเภทยังคงใช้ในเครื่องยนต์สำหรับการเกษตรอยู่ แต่หลายประเภทก็เลิกใช้ไปแล้ว

สำหรับใครที่สนใจสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องเพิ่มเติม ทางเรา Teddy Auto Sale มีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังมีรถนำเข้าจากต่างประเทศมาให้ท่านเลือกมากมาย ไม่สังกัดค่าย ไม่เรียกเก็บค่าแรกเข้า พร้อมตรวจเช็กด้วยเครื่องมือทันสมัย เครือข่ายการบริการช่วยเหลือฉุกเฉินครอบคลุมทั่วประเทศและการบริการรับรถถึงที่ ไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมใด (ในกรุงเทพฯและปริมณฑล) ให้การบริการอื่นๆ จากศูนย์บริการ 4 สาขา เพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากเรา

บทความที่น่าสนใจ

ข้อดีจากการเช็คระยะรถตามกำหนด

ล้อรถที่ดีควรมีลักษณะอย่างไรบ้าง

ระบบควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์: ระบบเบรกดีๆ ที่รถคุณควรมี

ทำไมต้องซื้อรถนำเข้ากับ Teddy Auto Sale

Teddy Auto Sale ศูนย์นำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปคุณภาพสูงออฟชั่นครบจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Toyota, Honda, Porsche, Mini, Bentley

Teddy Auto Sale ศูนย์นำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปคุณภาพสูงหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น MPV , Mini MPV, SUV, Sedan, Sport มาพร้อมออฟชั่นครบครันจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Toyota , Honda , Porsche , Mini , Bentley จำหน่ายในราคาสุดคุ้ม ไม่เรียกเก็บค่าแรกเข้า มีบริการหลังการขายโดยช่างผู้ชำนาญการที่ได้รับการอบรมจากประเทศญี่ปุ่น มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับและทันสมัย มีเครือข่ายการบริการช่วยเหลือฉุกเฉินครอบคลุมทั่วประเทศ บริการรับรถถึงที่ รวมถึงมีสาขาให้ท่านเลือกใช้บริการถึง 4 สาขา ได้แก่

  • สาขารามอินทรา (สำนักงานใหญ่) เบอร์โทรศัพท์ 02-971-8889
  • สาขาวิภาวดี เบอร์โทรศัพท์ 02-690-7711
  • สาขาพระราม 2 เบอร์โทรศัพท์ 02-417-1414
  • สาขาบางนา เบอร์โทรศัพท์ 02-399-1111

สำหรับรถ Alphard & Vellfire เทดดี้ที่เดียวในไทยที่กล้ามอบ Warranty พร้อมใบ Certificate รับรองจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมระบบ Hybrid สูงสุด 5 ปี / 100,000 km. กรณีมีปัญหา เราพร้อมเปลี่ยนอะไหล่ให้ทันทีแบบไม่มีเงื่อนไข เทดดี้ ออโต้เซลส์พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยใจ เอาใส่ใจทุกขั้นตอนราวกับคนในครอบครัว เพราะเราเชื่อว่าการมีรถดีๆ สักคันจะช่วยสร้างความสุขให้ทุกท่านได้ตลอดการเดินทาง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

TEDDY AUTO SALE

 TEDDYAUTOSALE

 @TEDDYAUTOSALE (ฝ่ายขาย)

 @TEDDYSERVICE (ฝ่ายศูนย์บริการ)